มหินทะ ราชปักษา
มหินทะ ราชปักษา เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1945
ที่เมืองฮัมบันโตตา เขตฮัมบันโตตา (Hambantota District) มณฑลภาคใต้ (Southern Province) ประเทศศรีลังกา
ในครอบครัวนักการเมือง โดยนายดอน อัลวิน ราชปักษา (Don Alwin Rajapaksa) ผู้เป็นบิดา เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคอิสรภาพศรีลังกา (Sri Lankan
Freedom Party – SLFP) พรรคแกนนำรัฐบาลศรีลังกาชุดปัจจุบัน
และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและที่ดินในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีวิเชนันทะ
ทะหะนัยเก (Wijenanda Dahanayake) ในขณะที่ลุงของเขา ดอน
แมทธิว ราชปักษา (Don Mathew Rajapaksa) ก็เป็นสมาชิกสภาแห่งรัฐของศรีลังจาก
(State Council of Sri Lanka) จากเขตฮัมบันโตตา นอกจากนี้
ตระกูลราชปักษายังเป็นเจ้าของที่ดิน ที่นา และสวนมะพร้าวจำนวนมากในเขตนี้อีกด้วย
มหินทะ
ราชปักษา มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 3 คน โดยมหินทะเป็นบุตรคนที่ 2 และในจำนวน 9 คนนี้ มี 3
รับตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลของเขา คือ นายจะมาล ราชปักษา (Chamal
Rajapaksa) ประธานรัฐสภาศรีลังกา นายเบสิล ราชปักษา (Basil
Rajapaksa) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจ และนายโคตาภัย
ราชปักษา (Gotabhaya Rajapaksa) ปลัดกระทรวงกลาโหมและการพัฒนาเมือง
(Ministry of Defense and Urban Development) นอกจากนี้
ยังไม่นับรวมบุคคลรุ่นลูกที่ทำงานในองค์กรเอกชนสำคัญระดับชาติอีกจำนวนมาก
มหินทะ ราชปักษา
ได้รับการศึกษาทางธรรมที่วัดคัลเกติยะ (Galketiya Viharaya) ในเมืองกอล มณฑลภาคใต้ ตั้งแต่ยังเยาวัย จนเมื่ออายุ 6 ควบ มหินทะ ราชปักษาได้เข้าศึกษาที่วิทยาลัยริชมอนด์ (Richmond
College) ในเมืองกอล จากนั้นก็ย้ายไปศึกษายังวิทยาลัยนาลันทา (Nalanda
College) และวิทยาลัยเธิร์สตัน (Thurston College) ในกรุงโคลัมโบ นอกจากนี้ ในปี 1973
มหินทะได้เข้าศึกษาวิชากฎหมายในระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยนิติศาสตร์แห่งศรีลังกา (Sri
Lanka Law College) และสอบได้เนติบัณฑิตในปี 1977 โดยในช่วงที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและช่วงที่ไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ
มหินทะ ราชปักษาประกอบอาชีพทนายความในเมืองตังคัลเล (Tangalle) ในเขตฮัมบันโตตา
ชีวิตทางการเมืองของมหินทะ
ราชปักษา
เริ่มขึ้นเมื่อได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเขตเลือกตั้งเบเลียตตา (Beliatta)
เขตฮัมบันโตตา ในปี 1970
ซึ่งขณะนั้นมหินทะมีอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น
โดยถือเป็นการสืบทอดตำแหน่งทางการเมืองจากพ่อของเขา
ซึ่งได้เสียชีวิตลงไปเมื่อสามปีก่อนหน้านั้น ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนี้ มหินทะ
ราชปักษา มีความสนใจในปัญหาตะวันออกกลางมากและสนับสนุนประเทศอาหรับและโลกมุสลิม
ดังจะเห็นได้จากในปี 1975 ที่มหินทะ ราชปักษา
เป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการศรีลังกาสานสัมพันธ์ปาเลสไตน์ (Sri
Lankan Committee for Solidarity with Palestine) เพื่อสนับสนุนรัฐปาเลสไตน์
โดยได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติว่าด้วยปาเลสไตน์
อีกทั้งยังเคยพบปะหารือกับนายยัสเซอร์ อาราฟัต ผู้นำองค์การปลดปลอยปาเลสไตน์ (Palestine
Liberation Organization) ในขณะนั้น หลายครั้งในต่างประเทศ
ช่วงเวลาแห่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกของมหินทะสิ้นสุดลงในปี 1977 เมื่อพรรค SLFP แพ้การเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
เปิดทางให้พรรค United National Party (UNP) ขึ้นมามีอำนาจแทน
มหินทะ ราชปักษา
ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 1989
โดยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในรัฐบาลของประธานาธิบดีจันทริกา
กุมารตุงคะ (Chandrika Kumaratunga) ระหว่างปี 1994 –
1997 และได้พยายามออกกฎหมายคุ้มครองแรงงาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ต่อมาเมื่อมีการปรับคณะรัฐมนตรี มหินทะ ราชปักษา
ได้ถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการประมงและทรัพยากรน้ำระหว่างปี 1997
- 2001 โดยในช่วงนี้ มหินทะได้ริเริ่มโครงการที่พักอาศัยสำหรับชาวประมงที่ไร้ที่อยู่
และก่อตั้ง Ocean University of Sri Lanka เพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ด้านสมุทรศาสตร์
(Oceanography) ของประเทศ
ในปี 2002 มหินทะ ราชปักษา
ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในรัฐสภาภายหลังจากที่พรรค SLFP
พ่ายแพ้อีกครั้งในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2001อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2004
กลุ่มพันธมิตรเสรีภาพประชาชนรวม (United People’s Freedom Alliance – UPFA)
ซึ่งพรรค SLFP เป็นสมาชิก
ได้รับชัยชนะอย่างเฉียดฉิว มหินทะ ราชปักษา ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่
13 ของศรีลังกา พร้อมกับควบตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงทางหลวง (Ministry
of Highways) ต่อมาเมื่อประธานาธิบดีจันทริกา กุมารตุงคะ
หมดวาระลงในเดือนพศจิกายนปี 2005 มหินทะ ราชปักษา
ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 6 ของศรีลังกา
โดยสามารถเอาชนะนายรานิล วิกกรมสิงเห (Ranil Wickramasinghe) ผู้ท้าชิงจากพรรค United People Party ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้น
อย่างเฉียวฉิวด้วยคะแนนเสียง 50.3%
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
มหินทะ ราชปักษา ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
และในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2
ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปี 2010
มหินทะได้ควบตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มอีก 3 ตำแหน่ง ได้แก่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและการวางแผน กระทรวงการท่าเรือและการบิน
และกระทรวงทางหลวง
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
มหินทะ ราชปักษา ได้ยุติสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานกว่าสองทศวรรษ
โดยยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงและกระบวนการเจรจาสันติภาพ
ซึ่งมีนอร์เวย์เป็นผู้อำนวยความสะดวก เนื่องจากเห็นว่าเป็นข้อตกลงที่โอนอ่อนและให้ประโยชน์แก่ฝ่ายพยัฆทมิฬอิแลมมากเกินไป
ในขณะเดียวกันก็หันมาใช้กำลังทหารในการปราบปรามอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่องโดยไม่ให้ฝ่ายพยัฆทมิฬฯ
สามารถตั้งตัวได้
ส่งผลให้กองทัพรัฐบาลสามารถยึดครองพื้นที่ของฝ่ายดังกล่าวได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็วจนกระทั้งฝ่ายดังกล่าวประกาศยอมแพ้อย่างเป็นทางการในวันที่
17 พฤษภาคม 2009 ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้
ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสงครามต่อต้านการก่อร้าย (Global War on Terror) ทำให้มหินทะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาคมนานาชาติอย่างหนักในประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน
เนื่องจากมีพลเรือนเสียชีวิตในปฏิบัติการครั้งนี้ถึง 40,000
คน ตามรายงานของสหประชาชาติ อย่างไรก็ตาม ภายหลังสิ้นสุดสงครามกลางเมือง มหินทะ
ราชปักษา ได้ประกาศให้ภาษาทมิฬเป็นภาษาประจำชาติของศรีลังกาควบคู่ไปกับภาษาสิงหล
พร้อมกับได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ที่เคยอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มพยัฆทมิฬฯ
อีกทั้งยังได้เชื้อเชิญให้ชาวทมิฬโพ้นทะเลกลับมาช่วยพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวร่วมกับรัฐบาลอีกด้วย
การบริหารประเทศของมหินทะ
ราชปักษา
มีส่วนสำคัญที่ทำให้ศรีลังกามีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
จากร้อยละ 3.5 ในปี 2009
เป็นร้อยละ 8.3 ในปี 2011
รัฐบาลได้ดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่าง
โดยได้เพิ่มจำนวนทางหลวงแผ่นดินและโรงไฟฟ้าตามพื้นที่ส่วนต่างๆ ของประเทศ
ขยายท่าเรือเดิมและสร้างท่าเรือเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะท่าเรือนานาชาติปลอดภาษีฮัมบันโตตา (Port of Hambantota) ซึ่งรองรับเรือเดินสมุทรบนเส้นทางการค้าทางทะเลสายตะวันออกตะวันตกและหากสร้างเสร็จ
ก็จะกลายเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ มหินทะ ราชปักษา
ยังมีนโยบายทางด้านภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในสาขาต่างๆ
ในด้านชีวิตส่วนตัว มหินทะ ราชปักษา สมรสกับนางศิรันติ ราชปักษา (Shiranthi
Rajapaksa) อดีตมิสศรีลังกาปี 1973
และผู้เข้าชิงตำแหน่งมิสเวิร์ลด์ปีเดียวกัน
ซึ่งปัจจุบันเป็นนักจิตวิทยาเด็กและนักการศึกษาเด็กก่อนวัยเรียน
พวกเขามีบุตรชายด้วยกัน 3 คน โดยนะมัล (Namal) บุตรคนโต ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตฮัมบันโตตา
ในขณะโยศิตะ (Yoshitha) บุตรคนรอง เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ Carlton
Sports Network (CSN)